ชาวจะแนะจัดพิธีสมเกียรติศพทหารกล้า พลีชีพในการสู้รบกับเขมรที่เนินอานม้า

หมวดหมู่ : นราธิวาส, ทั่วไป, ภาพข่าวสังคม,

อ่าน : 129
ชาวจะแนะจัดพิธีสมเกียรติศพทหารกล้า พลีชีพในการสู้รบกับเขมรที่เนินอานม้า

นราธิวาส-ครอบครัว ญาติและขาวอ.จะแนะ จ.นราธิวาส  เตรียมสมเกียรติ จัดพิธีศพ “พลฯมุสตากีม มาเจ๊ะมะ”ทหารกล้าพลีชีพเพื่อชาติในการสู้รบกับกัมพูชา ที่เนินอานม้า จ.อุบลราชธานี น้าเผยมารดาก็เป็นทหาร เจ้าตัวเป็นนักสู้รักการเป็นทหารสมัครไปรบเอง

            เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.68 นางสากีนะ ดือรานิง ยายของพลอาสามุสตากีม มาเจ๊ะมะ อายุ 21 ปี พลยิงอาวุธต่อสู้รถถัง กองพันจู่โจม ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่สู้รบกับกัมพูชา ณ พื้นที่ซำแต บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ธ..ค.68 ที่ผ่านมา พร้อมด้วย น.ส.พารีดะ เจ๊ะแว ซึ่งเป็นน้าสาวของ ส.อ.พาอีซะห์ เจ๊ะแว ผู้เป็นมารดา พร้อมด้วยเครือญาติ ส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดเตรียมสถานที่อย่างสมเกียรติ เพื่อรอรับศพของ พลอาสามุสตากีม ที่ทางผู้บังคับบัญชาจะลำเลียงศพด้วยเครื่องบิน ซี 130 มาถึงท่าอากาศยานนราธิวาส ช่วงเวลา 13.00 น. เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด


           สำหรับพิธีอาบน้ำศพจะมีขึ้น ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านสุแฆ เลขที่ 11 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ ซึ่งอยู่ข้างบ้านพักของ พลอาสามุสตากีม โดยมีเครือญาติและเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ด้วยการจัดเตรียมตั้งเก้าอี้และโต๊ะ เพื่อรองรับผู้บังคับบัญชาและแขกที่เดินทางมาร่วมงาน เพื่อเป็นการไว้อาลัยครั้งสุดท้ายของ พลอาสามุสตากีม รวมทั้งมีการจัดเตรียมแท่นอาบน้ำศพและฐานใช้สำหรับแบกศพของพลอาสามุสตากีม ไปประกอบพิธีที่มัสยิดก่อนที่จะนำไปฝังที่กูโบร์สุแฆ

           ส่วนที่บริเวณกูโบร์บ้านสุแฆ ซึ่งห่างจากบ้านพักของ พลอาสามุสตากีม ประมาณ 500 เมตร ได้มีกองอาสารักษาดินแดน อ.จะแนะ ชรบ.และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังช่วยกันกางเต็นท์ และช่วยกันขุดหลุมเพื่อฝังศพ พลอาสามุสตากีม ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างจต่อเนื่อง



             การพลีชีพเพื่อชาติของ พลอาสามุสตากีม ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 13 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา จากเด็กชายที่ฝันว่าเมื่อเติบโตขึ้นจะเป็นทหาร พออายุได้ 20 ปี เขาอาสาและสมัครเข้าหน่วยรบพิเศษ ก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมสู้รบกับกัมพูชาที่ภูมะเขือ เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาจนได้รับชัยชนะ ทำให้ทหารเข้าพื้นที่ได้และเขาเกิดมาในครอบครัวทหารโดยแท้ เพราะแม่ของเขา คือ ส.อ.พาอีซะห์ ก็เป็นทหารอยู่ศูนย์การทหารม้าค่ายอดิศร จ.สระบุรี ที่ย้ายมาจากการปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กรมทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา เพื่อให้สามารถอยู่ใกล้ชิดกับ พลอาสามุสตากรีม ซึ่งเป็นบุตรชาย แต่ต้องกลับกลายเป็นวันที่มารดาและคนไทยทั้งประเทศต้องสูญเสีย พลอาสามุสตากีมไปตลอดกาล

            ด้าน น.ส.พารีดะ เจ๊ะแว ซึ่งเป็นน้าสาว กล่าวว่า นางสากีนะ ดือรานิง ยายของ พลอาสามุสตากีม มาเจ๊ะมะ เป็นคนเลี้ยง พลอาสามุสตากีมตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ปะทะครั้งแรกที่ภูมะเขือ แกสั่งไว้ถ้าแกเสียให้เอาศพมาฝังที่บ้านเกิดตรงนี้ เขาเป็นทหารมานาน 2 ปีกว่า เขาได้สมัครไป เป็นคนเก่งมีความกล้าหาญเด็กมันสู้ โดยไม่มีลางบอกเหตุว่าต้องมาเสียชีวิตในครั้งนี้.