เศรษฐกิจ

ข่าวหน้าแรก เศรษฐกิจ

ข่าวล่าสุด

เศรษฐกิจใต้ไตรมาส 1 ทรงตัว หาดทิพย์ปรับกลยุทธ์ เน้นบริหารต้นทุนรักษาระดับอัตรากำไร

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC แถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมียอดขายรวม 2,100.1 ล้านบาท ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมที่อยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วง ไตรมาส 4 ของปี 2567 บริษัทฯ จึงเร่งปรับกลยุทธ์ เน้นการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 42.1% และ 8.7% ตามลำดับ ทั้งนี้ ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic Ready-to-Drink: NARTD) ในภาคใต้มีการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมปรับตัวลดลงเล็กน้อย

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.85-33.55 พักฐานรอปัจจัยใหม่

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.55 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.25 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 33.07-33.46 บาท/ดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านแล้ว เงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ โดยได้แรงหนุนจากข้อตกลงระงับภาษีศุลกากร 90 วัน ที่ประกาศเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างมีนัยสำคัญ

กรมการค้าต่างประเทศ จับมือ กรุงศรี ยกระดับบริการการเชื่อมต่อระบบ e-Payment มุ่งเป้าบริการ No visit เต็มรูปแบบ

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกับ กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ยกระดับงานบริการออกหนังสือสำคัญการส่งออก-นำเข้าสินค้า ด้วยการพัฒนาระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) มุ่งสู่เป้าหมายการให้บริการแบบ No Visit อย่างเต็มรูปแบบ ตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ (Citizen Centric) เพิ่มความง่าย สะดวก และรวดเร็วในการรับบริการ

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.70-33.30 จับสัญญาณเฟด

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.30 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา  เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.07 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.07-33.77 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยน แม้ข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯไตรมาส 1/68 หดตัว 0.3% ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากการนําเข้าพุ่งสูงขึ้นก่อนการปรับขึ้นภาษีศุลกากรและธุรกิจต่างๆสะสมสินค้าคงคลัง ทางด้านเงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% และปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจโดยส่งสัญญาณระมัดระวังมากขึ้นสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไป ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 1,492 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 7,411 ล้านบาท

กรุงศรี ระบุ เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 33.33 บาท/ดอลลาร์ หลังการประกาศปรับลดดอกเบี้ยของ กนง.

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% อยู่ที่ 1.75% ต่อปี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของปีนี้หลังจากการปรับลดครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.20-33.90 ลุ้นผลประชุม กนง.

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.90 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.08-33.59 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่า ขณะที่เงินดอลลาร์ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯส่งสัญญาณสงครามการค้ากับจีนจะคลี่คลายลงภายในอนาคตอันใกล้ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจปรับลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากจีนจากระดับที่สูงมากเกินจริงและพร้อมที่จะลดข้อพิพาทด้านการค้า นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯระบุว่าไม่มีแผนที่จะปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คนปัจจุบันก่อนที่จะครบวาระในเดือนพฤษภาคม 2569 ท่าทีที่อ่อนลงดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการแทรกแซงเฟด และกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 8,934 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตรสุทธิ 18,404 ล้านบาท

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.25-33.90 จับตาพันธบัตรสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.25-33.90 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.60 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 33.55-34.99 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 เดือนก่อนจะพลิกกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็ว เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก โดยเงินยูโรแข็งค่าสุดในรอบ 3 ปี หลังจากสหรัฐฯและจีนยกระดับความรุนแรงในสงครามการค้าระหว่างกัน แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะระงับการขึ้นภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับอีกหลายประเทศเป็นเวลา 90 วัน โดยตลาดหุ้นโลกและพันธบัตรสหรัฐฯเหวี่ยงตัวผันผวนสูง หลังรัฐบาลสหรัฐฯปรับทิศทางมาตรการอย่างไม่คาดคิด ทางด้านค่าเงินหยวนจีนในประเทศร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกปี 2550/51 ขณะที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษีเพิ่มจากจีนเป็น 145% หลังจากจีนตอบโต้ด้วยอัตราภาษี 125% ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 2,248 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 5,521 ล้านบาท

เกษตรกรเลี้ยงหมู เสนอรัฐนำเข้าส่วนขาดข้าวโพด กากถั่วเหลือง แทนนำเข้าหมู แก้ปัญหาเกินดุลสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ทำเนียบรัฐบาล สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พร้อมตัวแทนผู้เลี้ยงรวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกฯ และ 3 รัฐมนตรี แก้ปัญหาการกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ แนะหันนำเข้าข้าวโพด กากถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ในระดับตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญ หวังสหรัฐฯ ผ่อนคลายภาษีนำเข้าต่างตอบแทนกลับมาในอัตราระดับเดิม ช่วยทุกกลุ่มไม่เสียหาย

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.40-35.10 สงครามการค้าป่วนตลาด

รุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40-35.10 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.20 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.85-34.44 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ ท่ามกลางความวิตกว่านโยบายภาษีศุลกากรที่แข็งกร้าวเกินคาดของประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการค้าโลก โดยเฉพาะหลังจากจีนประกาศตอบโต้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯดิ่งลงและสัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจต้องเร่งลดดอกเบี้ยในปีนี้แม้อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นและตัวเลขจ้างงานยังดีเกินคาดก็ตาม การย้ายกระแสเงินทุนสู่แหล่งพักเงินที่ปลอดภัยหนุนเงินเยนสู่ระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 6,971 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 14,989 ล้านบาท

กรุงศรีสำรองเงินสด 8,898 ล้านบาทในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ให้บริการผ่านสาขา/กรุงศรีเอทีเอ็มทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เตรียมสำรองเงินสดจำนวน 8,898 ล้านบาท เพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2568 ทั้งนี้ แบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 4,577 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 4,321 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาจำนวน 528 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 5,344 เครื่องทั่วประเทศ (ข้อมูลจำนวนเครื่อง/สาขา ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568).

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.55-34.25 เกาะติดนโยบายทรัมป์

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.55-34.25 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.87 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.55-33.89 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.40-34.00 รอประเมินท่าทีเฟด

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.40-34.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดทรงตัวที่ 33.62 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.60-33.97 บาท/ดอลลาร์

กรุงศรี จับมือ ผู้ผลิตระบบบัญชี Express นำเสนอบริการ Krungsri Bill Payment Online

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ร่วมกับ บริษัท เอ็กซ์เพรสซอฟท์แวร์กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บัญชีสำเร็จรูป เปิดให้บริการ Krungsri Bill Payment Online ที่เชื่อมต่อระบบการรับชำระเงินเข้ากับซอฟต์แวร์บัญชี เพื่อให้ธุรกิจ SME สามารถรับชำระเงินได้ง่าย ๆ ลูกค้าจ่ายเงินได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ที่สำคัญ SME สามารถใช้ได้ทันที ลดต้นทุนในการพัฒนาระบบไอที

กรุงศรี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.35-33.85 ติดตามผลประชุม กนง.

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35-33.85 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 33.63 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.53-33.82 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแกว่งตัวออกด้านข้าง เงินดอลลาร์ปรับตัวไร้ทิศทางเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนมกราคมของสหรัฐฯพุ่งขึ้นเกินคาดที่ 3.3% และประธานาธิบดี ทรัมป์ยังคงกดดันเรื่องมาตรการภาษีสินค้านำเข้าต่อเนื่อง

ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าสู่การเติบโต เผยผลประกอบการ EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 8 ไตรมาส

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 สร้างกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax) ที่ 3.6 พันล้านบาท โดย EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จากการมุ่งเน้นผลการดำเนินงานและวินัยทางการเงิน ตลอดจนการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy) รายได้จากการให้บริการและ EBITDA สูงกว่าแนวโน้มที่ตั้งไว้สำหรับปี 2567

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.60-34.35 ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-34.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าเล็กน้อยที่ 33.65 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.57-34.15 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นเงินยูโรในสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นกู้ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” 4 ชุดใหม่ 3.35 – 4.00% เคาะดอกเบี้ย ตอบโจทย์นักลงทุนเสริมทรัพย์รับตรุษจีน

กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย และอันดับ 1 ของโลกด้านความยั่งยืน ด้วยคะแนน DJSI 2024 สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต้อนรับตรุษจีนให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 4 ชุด อายุตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง 3.35-4.00% ต่อปี เสริมด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ “A+” แนวโน้ม “คงที่” หรือ “Stable” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ในธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล คาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 6 - 7 และ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน 7 สถาบันการเงินชั้นนำได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซีไอเอ็มบี ยูโอบี บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

“กรุงศรี”คาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 332.65 บาท/ดอลลาร์ฯ สัปดาห์นี้

“กรุงศรี”คาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 32.25-32.65 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จับตาปมขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน อาจนำไปสู่สงครามการค้ารอบใหม่

“กรุงศรี”เผยความคืบหน้ามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือลูกค้า SME ฝ่าวิกฤตโควิด-19

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยธนาคารได้ให้สินเชื่อดังกล่าวไปแล้วจำนวน 8,800 ล้านบาท คิดเป็น 16% ของวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำทั้งหมดของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำออมสินที่สถาบันการเงินต่างๆ ได้ดำเนินการร่วมกับธนาคารออมสินจำนวน 55,000 ล้านบาท

แนะทางรอดและโอกาสอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทย ฝ่าวิกฤติโควิด-19

วิกฤติไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจและอุตสาหกรรมไม่เว้นแม้แต่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต แต่การดำเนินนโยบายและวางยุทศาสตร์การเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) อย่างต่อเนื่องของไทย ทำให้ผู้ประกอบการผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมีการปรับตัวพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตจนผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย สามารถเก็บรักษาคุณภาพได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับจากตลาดโลก