”ตลาดกิมหยง“หาดใหญ่เสียหายหนัก รอการช่วยเหลือฟื้นฟู

สงขลา-สภาพความเสียหายหนักหลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ อ.หาดใหญ่ ประชาชนและผู้ประกอบการเร่งขออุปกรณ์สนับสนุน พร้อมมาตรการฟื้นฟูและเยียวยาอย่างเร่งด่วน ด้านตลาดกิมหยง ย้านการค้าเศรษฐกิจใหญเสียหายหนัก ผู้ประแอบการเรียกร้องเร่งฟื้นฟู

           เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ไแสำรวจสภาพความเสียจากน้ำท่วม ที่บริเวณตลาดกิมหยง เขตอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดสงขลา เริ่มปรากฏให้เห็นสภาพพื้นที่หลังระดับน้ำลดลงในหลายจุด บางบริเวณแห้งสนิทแล้ว แต่เผยให้เห็นถึงความเสียหายอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ประชาชนและผู้ประกอบการได้ทยอยขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์และสินค้าที่เสียหายจากน้ำท่วมออกมากองไว้ริมถนน เพื่อรอการเก็บกวาดและทำความสะอาดพื้นที่ 

            ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการร้านค้าต่างจำเป็นต้องใช้น้ำสำหรับทำความสะอาดพื้นที่และไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ากลับคืนได้ คาดว่าระบบกำลังอยู่ระหว่างซ่อมแซมและปรับปรุงหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วม ซึ่งเคยมีระดับน้ำสูงสุดเกือบ 6 เมตร ส่งผลให้การทำความสะอาดล่าช้า ประชาชนร้องขอให้ทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจัดส่งอุปกรณ์สนับสนุนเพื่อเร่งดำเนินการ

            นอกจากนี้ ในพื้นที่บางส่วนของตลาดเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นจากสิ่งปฏิกูลและเศษซากที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ส่งผลให้การฟื้นฟูต้องเร่งดำเนินการทั้งด้านสาธารณสุขและการกำจัดขยะอย่างเร่งด่วน ขณะที่ถนนจำนวนมากรอบตลาดยังเต็มไปด้วยโคลนหนา ขยะมูลฝอย และเศษวัสดุต่าง ๆ ที่ถูกน้ำพัดมากองทับถม ทำให้การเดินทางและการทำความสะอาดเป็นไปอย่างยากลำบาก

          ด้านผู้ประกอบการจำนวนมากประเมินว่า ความเสียหายครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในวงกว้าง เนื่องจากตลาดกิมหยงเคยเป็นศูนย์กลางการค้าคึกคักทั้งจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว หลายฝ่ายจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคและจัดการขยะโดยเร็ว เพื่อให้ย่านกิมหยงสามารถกลับมาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดสงขลาได้ในเร็วที่สุด ด้านนายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมว่า ขณะนี้น้ำท่วมส่งผลกระทบทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยพื้นที่วิกฤตที่สุดคืออำเภอหาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม จากรายงานพยากรณ์อากาศของศูนย์

           ทางด้านอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระบุว่า ช่วงวันที่ 26–29 พฤศจิกายนนี้ ปริมาณฝนจะลดลง เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนกำลัง ขณะที่พายุโซนร้อนไคโตะ ไม่มีผลกระทบต่อจังหวัดสงขลาและอำเภอหาดใหญ่ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในหาดใหญ่เริ่มคลี่คลาย และระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

          วันเดียวกันได้มีการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ณ ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยมีนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน เพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ประสบภัย ทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน ตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่น การสนับสนุนเครื่องนอน เครื่องนุ่งห่ม เครื่องครัว และเครื่องมือประกอบอาชีพตามความจำเป็น ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้เข้าร่วมประชุมที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาอุทกภัย มณฑลทหารบกที่ 42 โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้เสนอแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้เสียชีวิตที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากภัยน้ำท่วม เช่น กรณีน้ำท่วมทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรในบ้าน จนเกิดเหตุเสียชีวิต ก็สามารถรับการเยียวยาเพิ่มเติมจากกระทรวงยุติธรรมได้

           ส่วนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งน้ำประปาและไฟฟ้า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อเร่งเปิดให้บริการในจุดที่พร้อม โดยจะรายงานเข้าสู่ศูนย์บัญชาการฯ และจัดทำอินโฟกราฟิกแจ้งเขตพื้นที่ที่สามารถกลับเข้าบ้านได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในศูนย์พักพิงยังคงพักอยู่ที่เดิมจนกว่าจะมีประกาศอย่างเป็นทางการ โอกาสนี้ ได้ขอความร่วมมือประชาชนช่วยไม่ให้มีสิ่งกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เช่น รถจอดขวางเส้นทางช่วยเหลือ

          สพหรับความต้องการเร่งด่วน ขณะนี้กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ยังต้องการแพมเพิส นมผงเด็ก และผ้าอนามัย เนื่องจากร้านค้าในพื้นที่หาดใหญ่หลายแห่งยังปิดทำการ นอกจากนี้ หลังน้ำลด ประชาชนจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน เช่น ไม้กวาด และแปรงขัด ซึ่งยังเป็นของจำเป็นที่ต้องใช้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ย้ำว่าภาครัฐได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือตั้งแต่วันแรกของเหตุอุทกภัย แม้สถานการณ์ครั้งนี้จะรุนแรง แต่ทุกหน่วยงานได้ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลัง โดยศูนย์บัญชาการที่มณฑลทหารบกที่ 42 มีการประชุมทุกเช้าเพื่อแบ่งมอบงานและประสานการช่วยเหลือให้เป็นระบบมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสูงสุด พร้อมขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคในการช่วยเหลือ.