นราธิวาสฝนติดต่อกัน 5 วัน น้ำป่าไหลบ่าท่วมหลายอำเภอ

นราธิวาส-ฝนตกหนักติดต่อกัน 5 วัน น้ำป่าและน้ำล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วม จ.นราธิวาส 2 อำเภอ ทั้งอำเภอเมือง บาเจาะและพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ทั้งเทศบาลและทหารส่งชุดบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยประชาชนอพยพสิ่งของหนีน้ำ

         จากสภาวะฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน ต่อเนื่องกระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นาราธิวาส ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกหนักที่สุดที่บริเวณสนามบินนราธิวาส วัดได้ 207.0 ม.ม. รองลงมาพื้นที่ อ.บาเจาะ วัดปริมาณฝนตกได้ 141.6 ม.ม. ส่วนพื้นที่ที่มีสภาวะฝนตกน้อยที่สุดในพื้นที่ อ.แว้ง วัดปริมาณได้วัดได้ 0.2 ม.ม. แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และแม่น้ำสายบุรี ยังมีปริมาณต่ำกว่าตลิ่งในภาพรวม 3 ถึง 4 เมตร 

          กระแสน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร บ้านเรือนของประชาชน รวมไปถนนหนทางบางสาย ที่ตั้งหรือปลูกสร้างในพื้นที่ลุ่มเริ่มมีน้ำท่วมขัง ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส รายงานสถานการณ์อุทกภัย พบว่า อ.บาเจาะ มีสภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 ตำบล 28 หมู่บ้าน คือ 1.ตำบลบาเจาะ มีน้ำท่วมขังหมู่ 1, 2, 3, 5, 6, 2.ตำบลบาเระเหนือ มีน้ำท่วมขังหมู่ 1 ถึง หมู่ 7, 3.ตำบลบาเระใต้ มีน้ำท่วมขังหมู่ 2, 3, 4, 5, 7, ตำบลปะลุกาสาเมาะ มีน้ำท่วมขังหมู่ 1, 2, 3, 5 ถึงหมู่ 11 ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 50 ซ.ม. มีราษฎรอาศัยอยู่จำนวน 2,230 ครัวเรือน รวม 7,220 คน เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือ ในการขนย้ายสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นขึ้นที่สูง

          นอกจากนี้ที่ถนนเพชรเกษม สายนราธิวาส จรด จ.ปัตตานี ตั้งแต่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.บาเจาะ เกือบตลอดทั้งสายจรดรอยต่อ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีน้ำท่วมขังและมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลพวงจากปริมาณน้ำจากเทือกเขาบูโด ได้ไหลลงมาสมทบกับปริมาณฯฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ที่ไม่สามาถที่จะระบายลงสู่ที่ลุ่มต่ำ เนื่องจากมีขยะมูลฝอยและวัชพืชติดอยู่ทางน้ำในบริเวณคูคลอง แต่รถเล็กทุกชนิดยังสามารถสัญจรไปมาได้ โดยมีนายอาดิน หะยีอีแต นายกเทศบาลตำบลบาเจาะและเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สัญจรไปมา เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

          ส่วนพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส โดยภาพรวมมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนและถนนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาสทุกสาย ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางการค้าด้านเศรษฐกิจของ จ.นราธิวาส ที่เป็นผลพวงจากมวลน้ำที่ระบายลงสู่ท่อระบายน้ำจุดต่างๆที่เกิดอุดตัน และไม่สามารถที่จะระบายน้ำลงสู่คลองยะกัง ที่คาดว่ามวลน้ำนี้เมื่อไหลระบายลงสู่คลองยะกังแล้วจะทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่งของคลองยะกังมีน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเดินเครื่องสูบน้ำที่คลองยะ เพื่อเร่งไหลระบายลงสู่ปากอ่าวทะเลด้าน อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งผลพวงจากสภาวะน้ำท่วมเขตเทศบาลในครั้งนี้ มีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เปิดกิจการด้านค้าขายได้รับความเดือดร้อนประมาณ 400 คน

       ทางด้านหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 41 ได้จัดเจ้าหน้าที่กำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 10 นาย พร้อมรถยนต์ตรวจการณ์ 1 คัน รถขุดตัก 1 คัน และรถลากจูงชานต่ำ 1 คัน เข้าดำเนินการขุดลอกวัชพืชในคูคลองระบายน้ำรอบรั้วโรงเรียนราชภักดี ซึ่งตั้งอยู่ ม.7 บ.โคกสะตอ ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส  - จัดเจ้าหน้าที่ชุดบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 10 นาย พร้อมรถยนต์ตรวจการณ์ 1 คัน รถขุดตัก 1 คัน และรถลากจูงชานต่ำ 1 คัน เข้าดำเนินการขุดลอกวัชพืชคูคลองระบายน้ำบริเวณรั้วโรงเรียน เพื่อเปิดทางระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง.