ผวจ.สงขชา สั่งเร่งช่วยผูัประสบภัย-จ่ายเงินแล้ว 4 แสนราย 3,607ล้าน

หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,

อ่าน : 107
ผวจ.สงขชา สั่งเร่งช่วยผูัประสบภัย-จ่ายเงินแล้ว 4 แสนราย 3,607ล้าน

สงขลา-ผวจ.สงขลา เร่งมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างรอบด้าน บูรณาการทุกภาคส่วนเร่งฟื้นฟูพื้นที่–ดูแลประชาชนใน 16 อำเภอ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ส่วนเบินเยียวยาผ่านการพิจารณา 507,283 ครัวเรือน และดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 400,855 ครัวเรือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,607,695,000 บาท

          เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น  ที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้รับการรายงานการประชุมจากสถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 20.00 น. จากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลาระบุว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ร่วมกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรง ส่งผลให้จังหวัดสงขลามีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19–23 พฤศจิกายน 2568 ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และวาตภัย โดยสถานการณ์เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ครอบคลุม 16 อำเภอ 127 ตำบล 997 หมู่บ้าน รวมกว่า 592,707 ครัวเรือน และประชาชนได้รับผลกระทบมากถึง 1,422,410 คน มีผู้เสียชีวิต 145 ราย บาดเจ็บ 4 ราย และมีผู้ต้องอพยพรวม 49,956 คน 

           อำเภอที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งมีผู้ประสบภัยมากกว่า 406,000 คน และต้องอพยพกว่า 19,529 คน นอกจากนี้ พื้นที่อำเภอเมืองสงขลา สิงหนคร ระโนด และรัตภูมิ ก็มีสถานการณ์รุนแรงเช่นกัน หน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น รวมถึงทหาร–ตำรวจ ได้บูรณาการกำลังเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งการอพยพประชาชน การลำเลียงถุงยังชีพ การดูแลจราจร และการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในมหาวิทยาลัย โรงเรียน และสถานที่ปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อรองรับผู้ประสบภัยจำนวนมากตลอดช่วงวิกฤติที่ผ่านมา 

          ด้านการฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเมืองหาดใหญ่ ได้มีการระดมกำลังดำเนินการ Big Cleaning แบ่งออกเป็น 4 โซน มีทั้งกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม รวมกำลังพลกว่า 2,196 นาย และเครื่องจักร 542 รายการ ทำความสะอาดถนนมากกว่า 329 กิโลเมตร และขนย้ายขยะรวมกว่า 95,307 ตัน ขณะเดียวกัน สำนักงานคปภ.ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและเร่งกระบวนการจ่ายสินไหมทดแทน โดยพบว่ามีรถยนต์ได้รับความเสียหายมากกว่า 12,000 คัน และบ้านเรือน–ธุรกิจจำนวนมากอยู่ระหว่างการตรวจประเมินเพื่อเร่งเยียวยาให้เร็วที่สุด 

            ส่วนมาตรการช่วยเหลือประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ และจิตอาสาได้ร่วมกันกระจายความช่วยเหลือจำนวนมาก อาทิ การแจกถุงยังชีพกว่า 612,055 ชุด อาหารปรุงสุกสะสมกว่า 2.18 ล้านกล่อง น้ำดื่มกว่า 2.9 ล้านชุด มีการจัดตั้งครัวพระราชทานและครัวสนามหลายจุด รวมถึงใช้อากาศยานบินลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือกว่า 304 เที่ยวบิน กระทรวงแรงงานจัดจ้างงานเร่งด่วน 2,400 คน และกระทรวง พม. ให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตั้งแต่เงินฉุกเฉิน การจัดศูนย์พักพิง ไปจนถึงการเยี่ยมบ้านเพื่อประเมินฟื้นฟูชีวิตประชาชนกว่า 2,700 คน

            นอกจากนี้ เรือหลวงอ่างทองและเรือหลวงจักรีนฤเบศรยังได้ลำเลียงสิ่งของจากทั่วประเทศมาสนับสนุนพื้นที่จังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง  ในส่วนของความเสียหายจังหวัดสงขลาพบว่า บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 20 หลัง และเสียหายบางส่วน 278 หลัง โรงเรียนได้รับผลกระทบ 128 แห่ง วัด–มัสยิด 94 แห่ง ถนน 674 สาย สะพาน 76 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหายรวมกว่า 52,000 ไร่ รวมถึงบ่อปลาและปศุสัตว์จำนวนมาก ระบบสาธารณูปโภคสำคัญ เช่น ไฟฟ้า ประปา และเครือข่ายสื่อสาร ขณะนี้สามารถฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานได้ 100% แล้วเกือบทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หลายจุดยังต้องเร่งระบายน้ำและเฝ้าระวังความเสียหายรองลงมาหลังเหตุการณ์น้ำลด เช่น การปนเปื้อนและโรคที่มากับน้ำท่วมต่าง ๆ

          สำหรับการเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรี มีผู้ยื่นคำร้องแล้ว 713,656 ครัวเรือน ผ่านการพิจารณา 507,283 ครัวเรือน และดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 400,855 ครัวเรือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,607,695,000 บาท พร้อมกันนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ระหว่างวันที่ 11–16 ธันวาคม 2568 จะยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จังหวัดสงขลาจึงสั่งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด โดยยืนยันว่าทุกหน่วยงานยังคงปฏิบัติงานต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูพื้นที่และดูแลประชาชนให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด.