ศาลสั่งจำคุกผู้ต้องหาทุจริตเงินสหกรณ์ครูพัทลุงและให้ชดใช้เงิน-โทษจำคุกรอลงอาญา
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 22 เม.ย. 2568, 21:16 น. อ่าน : 260
พัทลุง-ศาลพัทลุงสั่งจำคุกกลุ่มผู้ต้องหาทุจริตเงินสหกรณ์ครูพัทลุง พร้อมปรับเงิน และให้ชดใช้ความเสียหาย ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีการตรวจพบการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพัทลุง จำกัด ในระหว่างปี พ.ศ. 2553-2560 โดยเห็นได้อย่างชัดเจนจากการจ่ายเงินปันผล เฉลี่ยคืน ทางสหกรณ์ฯจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุดังกล่าว 1 ชุด และพบว่ามีการทุจริตจริง สหกรณ์ฯจึงให้พักงาน จนท.ระดับสูง 3 ราย และให้รับสภาพหนี้ แต่ จนท.ระดับสูง และ จนท.รวม 7 คน ยืนยันว่าพวกตนไม่ได้กระทำความผิด ทางสหกรณ์ฯจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง พร้อมมีคำสั่งให้ปลดออก ไล่ออก กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ต่อมา จนท. ระดับสูง 3 ราย ไปยื่นฟ้องศาลแรงงาน จ.สงขลา ว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ทางด้านสหกรณ์ฯได้ต่อสู้คดีและฟ้องแย้ง รวมทั้งเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดที่ทำให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย โดยทางศาลแรงงานฯได้มีคำพิพากษาให้สหกรณ์ฯเป็นผู้ชนะคดีในคดีแพ่ง
ส่วนของความผิดในคดีอาญานั้น ทางสหกรณ์ฯได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง และมีการสอบสวนในช่วงปี พ.ศ.2561-2566 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาต่ออัยการจังหวัดพัทลุง และทางอัยการฯได้สั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาในปี พ.ศ.2567 ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูล และยักยอกทรัพย์ ทางด้านศาลจังหวัดพัทลุงได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อการคุ้มครองสิทธิ์ และศาลจังหวัดฯได้มีคำพิพากษาเพื่อแก้ปัญหาและรักษาผลประโยชน์แก่สหกรณ์ฯ โดยจำเลยทั้ง 7 คน ได้รับสารภาพอันเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดีของศาล ศาลจังหวัดฯจึงพิพากษาลงโทษตามความผิดตามคำฟ้องของพนักงานอัยการ โดยให้ลงโทษจำคุกและปรับผู้ต้องหา โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี และปรับฐานความผิด 6-7 กระทงๆละ 20,000 บาท เพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยทั้ง 7 คน ได้กลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้ง โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษ
ทางด้านสหกรณ์ฯนั้นให้กลุ่มผู้เสียหายได้ชดเชยค่าเสียหายคืนแก่สหกรณ์ฯ และชดใช้หนี้ตามสัญญาเงินกู้ที่มีอยู่เดิมตั้งแต่คนละ 1 – 4 ล้านบาท ประมาณเกือบ 10 ล้านบาท และให้มีการเพิ่มการประกันตัวทรัพย์สินและตัวบุคคล เพื่อเป็นประกันในการชำระหนี้ในส่วนดังกล่าว ส่วนหนี้สินที่มีกับสหกรณ์ฯกลุ่มผู้ต้องหาก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย และดำเนินคดีพร้อมยึดทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการขายทอดตลาด ข่าวคืบหน้าจะเสนอให้ทราบต่อไป.