สงขลาเตรียมรับการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุอัญเชิญจากพุทธคยา

สงขลา-จังหวัดสงขลาเตรียมรับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดียมาประดิษฐานให้ประชาชนสักการะ สร้างสิริมงคลทั่ว 77 จังหวัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจังหวัดสงขลารับการเสด็จ ระหว่างวันที่ 16-30 พฤษภาคม 2568

          เมื่อวันที่ 22 เมษายน 68 เวลา 08.30 น. ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมหารือกับรองศาสตราจารย์ ดร.ชนะ อมาตยกุล ผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภานุพันธุ์ และนางสาวสุภาพร เกตุสุริยงค์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา เนื่องในโอกาสขอเข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับการขอความอนุเคราะห์สถานที่ และการอำนวยความสะดวกในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ

          ด้วย หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภานุพันธุ์ พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงมีศรัทธาในพระบรมสารีริกธาตุ จึงทรงมีพระดำริให้สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียนเป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย มาประดิษฐานในประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีแผนอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราวครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสกราบสักการะ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างบุญกุศลอันเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และร่วมกันสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงมั่นสืบไป

         ในโอกาสนี้ สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียนจึงขอความอนุเคราะห์จังหวัดสงขลาในการจัดสรรสถานที่สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม – 30 พฤษภาคม 2568 โดยมีความประสงค์พื้นที่ขนาดกว้าง 15 ยาว 15 เมตร สำหรับตั้งบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งนี้จะมีการกำหนดสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป

           พระบรมสารีริกธาตุเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธาและพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดาเอกของโลก แม้จะเสด็จดับขันธปรินิพพานมากว่า 2,500 ปี แต่หลักธรรมคำสอนอันล้ำค่าของพระองค์ยังคงเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตมนุษยชาติสู่ความพ้นทุกข์และสันติสุข การได้มีโอกาสสักการะพระบรมสารีริกธาตุจึงเปรียบเสมือนการเข้าเฝ้าใกล้ชิดพระพุทธองค์ เป็นการแสดงออกถึงความเคารพศรัทธา ความกตัญญูรู้คุณ และเป็นสิริมงคลอันสูงสุดในชีวิตของพุทธศาสนิกชน.