“สรรเพชญ” ดันให้ “หาดใหญ่” เป็น Financial Hub ของภาคใต้

หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,

อ่าน : 261
“สรรเพชญ” ดันให้ “หาดใหญ่” เป็น Financial Hub ของภาคใต้

สงขลา-“สรรเพชญ” หนุนไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และดันหาดใหญ่ให้เป็น Financial Hub ของภูมิภาคของภาคใต้ พร้อมเสนอกฎหมายต่อสภาฯ


        เมื่อสันที่  7 กุมภาพันธ์ 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนแนวคิดในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับสากล พร้อมเสนอให้หาดใหญ่เป็น Financial Hub ของภาคใต้ ชี้ศักยภาพของพื้นที่สามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินนั้น ตนได้ออกมาแสดงความเห็นอยู่หลายครั้งทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และการประชุมกับหน่วยงานหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด


         "หาดใหญ่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งที่ตั้งยุทธศาสตร์ที่อยู่ใกล้มาเลเซีย ระบบคมนาคมที่สามารถเชื่อมโยงการค้าในภูมิภาค และความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว ผมในฐานะผู้แทนราษฎรของจังหวัดสงขลามองเห็นโอกาสนี้มาโดยตลอด หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ก็จะสามารถทำให้หาดใหญ่ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคได้ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้แข่งขันในระดับนานาชาติได้" นายสรรเพชญกล่าว


          นายสรรเพชญยังเน้นว่า การผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินเป็นแนวทางที่ถูกต้องในเวลานี้โดยเฉพาะการผลักดันร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน โดยการเจาะจงพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ซึ่งตนกำลังเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสภาฯ  อันจะเป็นการช่วยสร้างสิทธิประโยชน์ทางภาษีดึงดูดสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ในไทย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจ้างงานและการลงทุนระยะยาว ซึ่งควรจะต้องมีการระบุสถานที่หรือจังหวัดที่จะผลักดันให้ชัดเจนเพื่อเตรียมการรับมือและสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนได้เข้าใจ


         "เราต้องมองไปข้างหน้า และสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็น Financial Hub เช่นเดียวกับสิงคโปร์หรือดูไบ ซึ่งหาดใหญ่สามารถเป็นต้นแบบของศูนย์กลางการเงินระดับภูมิภาค โดยอาจเริ่มจากการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเงิน ที่มีมาตรการจูงใจทางภาษีและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน" นายสรรเพชญกล่าวเสริม


         นายสรรเพชญ ยังได้เรียกร้องให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการกระจายการพัฒนาไปยังภูมิภาค เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่กระจุกตัวเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ขยายไปยังเมืองที่มีศักยภาพอย่างหาดใหญ่ เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่


         "การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเงินที่หาดใหญ่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ภาคใต้เติบโต แต่ยังช่วยกระจายความเจริญไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น สงขลา นครศรีธรรมราช และจังหวัดชายแดนใต้ รัฐบาลต้องกล้าที่จะคิดและผลักดันโครงการใหม่ๆให้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ไทยแข็งแกร่งขึ้นในเวทีเศรษฐกิจโลก" นายสรรเพชญ กล่าวปิดท้าย.